ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. มติให้ผ่อนปรนในกิจการและกิจกรรมที่กลับมา เปิดให้บริการได้ในระยะที่ 3 จะต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ทั้งการวัดอุณหภูมิและ สังเกตอาการป่วยของพนักงานและผู้ใช้บริการ การลงทะเบียนกับแพลตฟอร์มไทยชนะ และต้องพัฒนา นวัตกรรมป้องกันควบคุมโรคในระยะยาว สำหรับรายละเอียดการผ่อนปรนในระยะที่ 3 มีดังนี้
- ปรับเวลาเคอร์ฟิว : ตั้งแต่เวลา 23.00 - 03.00 น. ของวันถัดไป
- ห้างสรรพสินค้า : ขยายเวลาปิดให้บริการจาก 20.00 เป็น 21.00 น.
- โรงเรียนและสถานศึกษา : สามารถใช้สถานที่ในการสอบคัดเลือกและอบรมระยะสั้นได้ แต่ยังคง ปิดการเรียนการสอนไปจนถึงวันที่ 1 ก.ค. อย่างไรก็ตามกระทรวงศึกษาธิการอาจพิจารณาให้โรงเรียนและ สถาบันการศึกษาบางแห่งเปิดก่อนได้ เช่น โรงเรียนสอนด้านอาชีพและกีฬา โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีการ ระบาดของโรค และมีจำนวนนักเรียนน้อย
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก : เปิดเฉพาะเพื่อทำการประกอบอาหารให้ผู้ปกครองมารับ
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม และการจัดนิทรรศการ : เปิดดำเนินการได้เฉพาะที่มีพื้นที่ไม่เกิน 20,000 ตร.ม. และต้องปิดในเวลา 21.00 น.
- ศูนย์พระเครื่อง สนามพระเครื่อง : เปิดดำเนินการได้แต่ต้องควบคุมจำนวนคนไม่ให้หนาแน่นเกินไป - ร้านเสริมสวย สถานเสริมความงาม ร้านตัดผม : เปิดบริการทุกรูปแบบได้ยกเว้นกิจกรรมที่มีการ สัมผัสบริเวณใบหน้า แต่ต้องใช้เวลาทำไม่เกิน 2 ชม. และห้ามนั่งรอในร้าน
- ร้านนวดเพื่อสุขภาพ สปา นวดแผนไทย นวดเท้า: ให้บริการได้รายละไม่เกิน 2 ชม. งดการอบไอน้ำ อบตัว
- ฟิตเนส : ให้ทำกิจกรรมได้ทั้งหมด แต่จำกัดระยะเวลาให้บริการ
- โรงภาพยนตร์: จำกัดผู้เข้าชมไม่เกิน 200 คน นั่งคู่กันได้ แต่ต้องจัดที่นั่งให้มีระยะห่าง
- สถานที่ออกกำลังกาย : ให้ทำกิจกรรมได้ทุกประเภท แต่ต้องมีมาตรการป้องกันโรคกำกับ และ กำหนดระยะเวลาการให้บริการ
- สนามกีฬาเพื่อการฝึกซ้อม : เปิดให้บริการทั้งสนามฟุตบอล ฟุตซอล บาสเกตบอล มวย วอลเลย์บอล บึงน้ำเพื่อการเล่นกีฬาทางน้ำ แต่ต้องมีมาตรการรักษาระยะห่าง จำกัดจำนวนเจ้าหน้าที่ไม่เกิน 10 คน/ครั้ง และจำกัดเวลา
- ลานกิจกรรม : ลานโบว์ลิง สเกต โรลเลอร์เบลด สถานลีลาศ เปิดให้บริการได้แต่ต้องจำกัด ผู้ใช้บริการและกำหนดเวลา
- สวนสัตว์ สถานที่จัดแสดงสัตว์: สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ สำหรับกรณีการเดินทางข้ามจังหวัด ประชาชนสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้
แต่ทั้งนี้รัฐบาล ขอความร่วมมือประชาชนให้เดินทางเฉพาะที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น และไม่ใช่การเดินทางท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ศบค. ยังคงมาตรการห้ามเข้าราชอาณาจักรไว้เช่นเดิม เนื่องจากยังคงมีความเสี่ยงเรื่องการนำเชื้อจาก ต่างประเทศเข้ามา และคนไทยที่เดินทางกลับเข้าประเทศต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคเช่นเดิม หากประชาชนมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่หมายเลข ๑๑๑๑ ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐสำนัก นายกรัฐมนตรี
***********
